ตั้งแต่ก่อนที่หอไอเฟลจะสร้างเสร็จ เหล่าศิลปินและสถาปนิกในยุคนั้นต่างวิจารณ์รูปลักษณ์ที่ทำด้วยเหล็กของมันว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาด และใหญ่โตมโหฬารราวกับเป็น “ปีศาจ” กลางเมืองปารีส แต่หลังจากที่มันผงาดขึ้นสำเร็จดังที่หลายคนหวัง เหล็กกล้าหลายพันชิ้นบนหอไอเฟลก็ได้เปลี่ยนทัศนียภาพของเมืองปารีสสู่การเป็นเมืองแห่งความก้าวหน้า และทันสมัยในทันทีทันใดพร้อมกับที่ผู้คนได้เปลี่ยนโลกทัศน์ที่มีต่อเมือง ต่อสิ่งปลูกสร้าง และต่อวิถีชีวิตของตนไปอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่ก่อนที่หอไอเฟลจะสร้างเสร็จ เหล่าศิลปินและสถาปนิกในยุคนั้นต่างวิจารณ์รูปลักษณ์ที่ทำด้วยเหล็กของมันว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาด และใหญ่โตมโหฬารราวกับเป็น “ปีศาจ” กลางเมืองปารีส แต่หลังจากที่มันผงาดขึ้นสำเร็จดังที่หลายคนหวัง เหล็กกล้าหลายพันชิ้นบนหอไอเฟลก็ได้เปลี่ยนทัศนียภาพของเมืองปารีสสู่การเป็นเมืองแห่งความก้าวหน้า และทันสมัยในทันทีทันใดพร้อมกับที่ผู้คนได้เปลี่ยนโลกทัศน์ที่มีต่อเมือง ต่อสิ่งปลูกสร้าง และต่อวิถีชีวิตของตนไปอย่างสิ้นเชิง
เช่นในโครงการ SINGHA D’LUCK โดยฝืมือของ “บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (ARCHITECTS 49 LIMITED) ”โรงละครที่ได้ชื่อว่าเป็น “โรงละครเหล็กลอยได้” โดยใช้ เหล็กSM520 (High Strength Steel) มาแสดงศักยภาพผ่านการยื่นส่วนหน้าของอาคารออกมาถึง 10 เมตร ซึ่งเมื่อประกอบกับวัสดุกระจกด้านล่างที่ช่วยสะท้อนลวงตา อาคารจึงดูราวกับลอยเคว้งอยู่เหนือพื้นดิน รวมถึงพื้นที่ใช้สอยภายในที่ต้องการให้ไม่มีเสาอยู่เลย จึงต้องออกแบบระยะช่วงเสาภายในออกแบบให้กว้างเป็นพิเศษ ซึ่งเหล็กSM520 (High Strength Steel) ก็ช่วยยืดระยะช่วงเสาออกไปได้ไกลกว่าโครงสร้างเหล็กแบบเดิมมาก ในขนาดหน้าตัดที่เท่ากัน
ในขณะเดียวกัน เมื่อเหล็กได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีผู้แสดง “ความงาม” ของเหล็กโครงสร้างอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น เช่นการโชว์เนื้อแท้หรือที่เรียกกันว่า “สัจจะวัสดุ” ของเหล็กโครงสร้างในโครงการบ้าน “Tinman House” ที่สถาปนิก “Junsekino Architect And Design” ตั้งใจออกแบบบ้านโดยเผยทั้งระบบโครงสร้าง และผิวของวัสดุเหล็กอย่างตรงไปตรงมา ภายในบ้านจึงจะเห็นโครงสร้างเหล็ก H-Beam ประกอบกับวัสดุอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ท่อเหล็ก ตะแกรงเหล็ก แผ่นเหล็กกันลื่น พร้อมการเปลือยฝ้า เปลือยโครงสร้าง ซึ่งยิ่งผลักความงามและความท้าทายของการออกแบบดีเทลเหล็ก รวมถึงการจัดวางระบบไฟและท่อไม่ให้รกตา เพื่อให้เหล็กได้แสดงศักยภาพผ่านพื้นผิวของมันได้อย่างเต็มศักยภาพ
“เหล็ก” จึงเป็นวัสดุที่เหมาะอย่างยิ่งกับการแสดงความงามอย่างไม่ปกปิด ตรงไปตรงมารวมถึงการผลักกรอบความเป็นไปได้ของการออกแบบและก่อสร้างอาคารใดๆ สู่รูปแบบที่น่าทึ่งมากขึ้นได้เสมอดังเช่นที่หอไอเฟลเคยแสดงให้เห็นมาแล้วในอดีต และแนวคิดของความก้าวหน้านั้น ก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่จนถึงปัจจุบัน
DID YOU KNOW?
ในทางเทคนิค โครงสร้างเหล็กSM520 หรือ High Strength Steel Grade SM520 นั้นมีราคาสูงกว่าเหล็กโครงสร้างทั่วไป อยู่ที่ราว 3 เปอร์เซ็นต์ หากแต่เมื่อคำนวณจากการนำไปใช้จริง เช่นค่าขนย้าย ค่าแรง ระยะเวลาการก่อสร้าง เหล็ก SM520 นั้นจะช่วยประหยัดได้มากกว่าถึงราว 40% (คำนวณจากการสร้างโครงถัก (Truss) ระยะเสา 26 เมตร ห่างกัน 6 เมตร และสูง 6 เมตร
จึงเหมาะกับการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เหล็กในปริมาณมากสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆ และต้องการใช้ศักยภาพของเหล็ก เช่น การยืดระยะเสา หรือการยื่นโครงสร้างลอย สูงสุด เพราะเหล็กSM520 จะช่วยลดทั้งขนาดโครงสร้าง ลดน้ำหนัก ซึ่งส่งผลดีหลายอย่างต่อมานั่นเอง ขอบคุณที่มา: บ้านและสวน
Kommentare