บ้านสไตล์รีสอร์ท พักผ่อนได้แม้ไม่ใช่วันหยุด

บ้านในฝันสไตล์รีสอร์ท

Doonan Glasshouse เป็น ‘บ้านในฝัน’ ของสถาปนิก Sarah Waller ที่ออกแบบและสร้างด้วยตนเอง โดยยึดหลักวิธี ‘Less is more’ ดีไซน์รูปทรงที่เรียบง่าย  ผนังติดกระจกที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านในช่วงกลางศตวรรษ อย่างเช่น Farnsworth House ของ Mies van der Rohe และบ้านกระจกของ Philip Johnson เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมที่ไร้กาลเวลา ให้สมาชิกในบ้านได้ผ่อนคลายเต็มพิกัดเหมือนได้อยู่ในรีสอร์ทใน Sunshine Coast Hinterland

ออกแบบ : Sarah Waller Design ภาพถ่าย : Anastasia Kariofyllidis เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ให้ทุกวันเป็นวันพักผ่อน ในบ้านสไตล์รีสอร์ท

แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังบ้านหลังนี้คือ การสร้างที่ไหนสักแห่งที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในวันหยุดตลอดเวลา ทำให้สถาปนิกเลือกออกแบบบ้านในสไตล์รีสอร์ท ยึดถือรูปแบบจากสระแบบ Modernist ในปาล์มสปริงส์ ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 50 ความยาว 18 เมตร เป็นเหมือนคาบาน่า (ห้องพักเล็ก ๆ ริมสระน้ำแยกจากตัวโรงแรม) ซึ่งบ้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมสำหรับการดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่กว้างไกลทั่วภูมิทัศน์ ความรู้สึกแบบเขตร้อนแผ่กระจายไปทั่วบริเวณบ้านให้ความเขียวชอุ่มโอบล้อมบ้าน

แยกฟังก์ชันใช้งานตามระดับของพื้นที่

พื้นที่นี้มีความต่างระดับซึ่งดูเหมือนเป็นข้อด้อย เพราะอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพื่อปรับหน้าดินให้เท่ากัน แต่บ้านหลังนี้ใช้ความไม่เท่ากันในการแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วน ที่ให้มุมมองแตกต่างกันในแต่ละระดับ โดยจัดให้อาคารหลักอยู่ด้านบนเป็นรูปตัว L ขยายใหญ่สุดเต็มพื้นที่ มีการปลูกต้นไม้ในเขตร้อนอย่างง่าย ๆ พร้อมต้นไม้ที่มีแสงไฟประดับเป็นพื้นฐานของการออกแบบภูมิทัศน์

จากตัวบ้านและสนามเขียว ๆ พื้นที่กว้าง ๆ จะมีจุดที่ต่างระดับลงมา จัดเป็นโซนใช้งานทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างสระว่ายน้ำ พื้นที่นอนอาบแดด และศาลานั่งเล่น ทำให้การใช้งานให้แยกฟังก์ชันออกจากกัน

บ้านโมเดิร์น open plan โทนสีโมโนโครม

บ้านหลักเป็นอาคารชั้นเดียวผนังกระจกทั้งสองด้านเหมือนกล่องแก้ว ออกแบบให้เปิดโล่งแบบ Open plan ประกอบด้วยห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นพร้อมเตาผิง  ห้องดูทีวี  ห้องอ่านหนังสือ ที่เป็นศูนย์กลางของบ้าน นอกจากนั้นยังมีห้องซักรีด ทั้งหมดสี่ห้องนอนพร้อมห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่และสตูดิโอ เป็นคำจำกัดความของความเรียบง่ายด้วยโทนสีโมโนโครม สีขาว ดำ เทา  และเส้นสายที่สะอาดตาตรงไปตรงมา สะท้อนความรู้สึกนิ่งเรียบแต่โมเดิร์น

ผนังไม่ได้เป็นวัสดุกระจกอย่างเดียวตลอดอาคาร แต่มีสลับกับไม้ที่ตีให้มี texture ทาสีดำสนิท เพื่อเพิ่มมิติให้ตัวบ้านและเป็นการใส่ความเป็นส่วนตัวในจุดที่ต้องการ

มุมนั่งเล่นกึ่งเอาท์ดอร์ที่เป็นได้ทั้งห้องนั่งเล่นในบ้านและนอกบ้าน เพราะวิธีการออกแบบที่จัดวางไม้ส่วนมุมบ้าน ทั้งสองด้านของผนังเป็นกระจกใส สามารถเปิดออกไปชนกันทั้ง 2 ด้าน จึงกลายเป็นศาลาโล่ง ๆ ได้ถ้าต้องการ

บ้านโมเดิร์นเบลอขอบเขตภายนอกภายใน

ความตั้งใจออกแบบหลักคือการเบลอความแตกต่างระหว่างในบ้านและนอกบ้าน เพื่อสร้างช่องว่างที่รู้สึกเปิดและโปร่งใส ผ่านตัวกลางคือผนังกระจกที่ทอดยาวตามความยาวของบ้าน ช่วยให้แสงจากธรรมชาติส่องผ่านสร้างความอบอุ่นและเกิดมุมมองที่ต่อเนื่องของพื้นที่โดยรอบ กระจกเต็มความสูงและหน้าต่างมุมชนยังเพิ่มความรู้สึกของการเปิดกว้างและเน้นคุณสมบัติทางสถาปัตยกรรม กระจกยังดึงความเขียวชอุ่มจากภายนอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านโดยรอบ เมื่อมาผสมผสานต้นไม้ที่จัดในบ้าน จึงรวมเอาภูมิทัศน์ธรรมชาติให้ปรากฏภายใน

ห้องครัวตกแต่งในโทนสีดำและสีขาวที่จัดวางจังหวะอย่างสมดุล ด้วยการวางไอส์แลนด์ตัวใหญ่สีดำ วางขนานกับเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใกล้เคียงกันสีขาว ดูเส้นสายเรียบง่ายทันสมัย แต่ไม่ได้แข็งมากจนเกินไป เพราะถูกลดทอนความกระด้างด้วยต้นไม้สีเขียวสดชื่น และโต๊ะทานข้าวที่ทำจากไม้ ที่จะเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นในห้องอาหาร

ห้องน้ำก็ตกแต่งไปใน Mood&Tone เดียวกัน คือใช้สีขาวเป็นฉากหลังตัดด้วยสีดำ เพียง 2 สีง่าย ๆ ก็สร้างลุคที่มองได้นาน ๆ ไม่เบื่อ เสริมความโปร่งเบาด้วยกระจกใส ๆ มองเห็นสวนที่จัดอยู่ด้านนอก ทำให้ห้องน้ำเต็มไปด้วยความสบาย

การสร้างบ้านให้มีอารมณ์สไตล์รีสอร์ท สิ่งสำคัญคือการออกแบบภูมิทัศน์  ที่ต้องมีพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ ดอกไม้ ทั้งรอบ ๆ อาคารและภายในบ้าน พยายามหาจุดเปิดเชื่อมต่อภายในภายนอก ก็จะสร้างบรรยากาศสบาย ๆ มากกว่าบ้านที่อยู่อาศัยธรรมดา ๆ และถ้ามีงบประมาณมากพอ ก็จัดพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสวน ห้องนั่งเล่น สระว่ายน้ำ เท่านี้ก็ไม่ต้องไปพักกายตามรีสอร์ทไหน ๆ แล้ว